รู้ไว้ใช่ว่า คัมภีร์ บาคาร่าออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า คัมภีร์ บาคาร่าออนไลน์ ผมว่านาทีนี้คงมีน้อยคนมากที่จะไม่เคยได้ยินชื่อ “บาคาร่า” เพราะไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจอแต่โฆษณาของ คาสิโนออนไลน์ แถมยังโปรโมตเกมไพ่ บาคาร่าออนไลน์ กันแบบสุด ๆ จนอาจทำให้ใครที่ไม่เคยรู้จักการพนัน หรือคนที่คุ้นเคยแค่วงไพ่ป๊อกใกล้บ้านสงสัยกันว่าไพ่บาคาร่ามันคืออะไร เล่นยังไง วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกันครับ
คำเตือน! สำหรับสายเล่นเกมไพ่บาคาร่า อย่าเล่นถ้ายังไม่ได้อ่าน 8 ข้อห้ามในการเล่น บาคาร่าออนไลน์
บาคาร่าคืออะไร
หากเทียบไพ่ป๊อกเป็นเกมไพ่อันดับหนึ่งในวงไพ่ใกล้บ้าน บาคาร่า ก็เป็นเกมไพ่อันดับหนึ่งในเอเชียด้วยเช่นกัน ด้วยรูปแบบการเล่นที่ง่ายจึงทำให้มันเป็นเกมที่นิยมเล่นมากกว่าพวก โป๊กเกอร์ แบล็คแจ็ค แรกเริ่มเดิมทีการเล่นไพ่รูปแบบนี้เขาเรียกกันว่า “Punto Banco” หรือที่แปลว่า “ผู้เล่น เจ้ามือ” สมัยก่อนที่ยังไม่มี คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่ต้องมีให้เล่นในทุกคาสิโนทั่วโลก แต่เดี๋ยวนี้สบายแล้วครับ ต่อให้อยู่ในห้องนอน ห้องน้ำ จะทำอะไรที่ไหน เราก็สามารถเล่น บาคาร่าออนไลน์ ได้ทุกที่ เพราะเขายกมาไว้ให้โลกออนไลน์ให้เราได้เล่นง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
บาคาร่าเล่นยังไง นับแต้มยังไง
สำหรับวิธีการเล่นไพ่บาคาร่าไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ เริ่มจากผู้แจกไพ่จะแจกให้ฝ่ายเจ้ามือ และฝ่ายผู้เล่น ฝั่งละ 2 ใบ ฝั่งไหนที่มีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ ส่วนเรามีหน้าที่แค่ทายว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะก็พอ หรือจะวางเดิมพันว่าเสมอกันก็ได้ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการเดิมพันต่าง ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโต๊ะบาคาร่าด้วยว่าจะเปิดให้วางเดิมพันอะไรได้บ้าง
ส่วนการนับแต้มดอกจะไม่มีผลต่อขนาดของไพ่ครับ อย่างเช่นถ้าผู้เล่นได้ไพ่ A ไม่ว่าจะหน้าไพ่เป็นดอกอะไรก็ตามมันก็จะมีค่าเท่ากับ 1 สำหรับการนับแต้มแบ่งได้ดังนี้
หน้าไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม
หน้าไพ่ 2 – 9 มีค่าเท่ากับ หมายเลขที่แสดงอยู่หน้าไพ่
หน้าไพ่ 10, J, Q และ K มีค่าเท่ากับ 0 (ไม่มีแต้ม)
เวลานับแต้มรวมเราก็จะเอาแต้มของไพ่แต่ละใบมารวมกัน แล้วยึดเอาหลักหน่วยเป็นตัววัดแต้มไพ่ เช่น ถ้าได้ไพ่ 3 กับ 4 ก็ถือว่าได้ 7 แต้ม แต่ถ้าได้ไพ่ 9 กับ 5 ที่รวมกันแล้วได้ 14 ให้ถือว่าได้แค่ 4 แต้มเท่านั้น
วันนี้จะมาแนะนำสูตรเดินเงินสำหรับบาคาร่าออนไลน์ เป็นสูตรลับบาคาร่าที่เจ้ามือไม่อยากให้คุณรู้ แต่เราจะให้คุณรู้
ไพ่ใบที่สาม กติกาบาคาร่า ที่ถูกเมิน
ที่บอกว่าถูกเมินก็เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญตรงนี้ คิดว่าเรามีหน้าที่แค่ทายผลก็เท่านั้น ซึ่งมันก็จริงครับ แต่ทีนี้มันมีประเด็นที่ว่าตาม กฎบาคาร่า มันจะมีการจั่วไพ่ใบที่สาม และด้วยความซับซ้อนของมันผู้แจกไพ่หรือเจ้ามือก็เลยต้องเป็นคนคุมกฎตรงนี้แทนคนดูอย่างเรา ๆ
แต่ด้วยความไม่ใส่ใจแล้วบังเอิญไปเจอเขาจั่วไพ่ใบที่สาม จากที่ฝั่งเรากำลังจะชนะแล้วอยู่ ๆ มาแพ้หน้าตาเฉย ก็เลยทำให้มีบางคนไปบ่นไปโวยวายว่าโดนโกงบ้างอะไรบ้าง ความจริงเขาไม่ได้โกงครับ เราต่างหากที่ไม่หาความรู้ ไม่ยอมทำความเข้าใจก่อนเล่นเอง ซึ่งเงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่สามของ บาคาร่าออนไลน์ ก็มีดังนี้
- เมื่อฝั่งผู้เล่นหรือเจ้ามือมีแต้มรวม 8 – 9 แต้ม ให้ใช้แต้มรวมที่ได้ตัดสินแพ้ชนะกันได้เลย ใครได้แต้มมากกว่าก็ชนะไป
- เมื่อฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวม 6 – 7 แต้ม ให้ไปดูแต้มเจ้ามือก่อนว่าเป็นอย่างไร
- ถ้าได้แต้มรวม 6 – 7 แต้ม ก็ให้ตัดสินแพ้ชนะกันได้เลย
- ถ้าได้แต้มรวม 0 – 5 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ แล้วตัดสินแพ้ชนะ
- เมื่อฝั่งผู้เล่นได้แต้มรวม 0 – 5 แต้ม ให้ฝั่งผู้เล่นจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบจากนั้นดูว่าแต้มรวมของไพ่ 2 ใบ ในฝั่งเจ้ามือเป็นอย่างไร ซึ่งฝั่งเจ้ามือจะสามารถจั่วไพ่ใบที่ 3 ได้ก็ต่อเมื่อตรงกับเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งดังนี้
- ถ้าได้แต้มรวม 0 – 2 แต้ม ให้ฝั่งเจ้ามือจั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ
- ถ้าได้แต้มรวม 3 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นไม่ใช่เลข 8
- ถ้าได้แต้มรวม 4 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 2 – 7
- ถ้าได้แต้มรวม 5 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 4– 7
- ถ้าได้แต้มรวม 6 แต้ม และไพ่ใบที่ 3 ของฝั่งผู้เล่นอยู่ระหว่าง 6– 7
ในกรณีที่ฝั่งเจ้ามือมีแต้มรวม 7 แต้ม จะไม่สามารถจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มได้ครับ
ดูอันดับเว็บบาคาร่าโปรโมชั่นดี คนเล่นเยอะได้ที่นี่ บาคาร่าเว็บไหนดี 10 เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุด
บาคาร่า จ่ายอย่างไร คาสิโนได้เปรียบแค่ไหน
หลังจากที่นับแต้มรวมตัดสินผลแพ้ชนะกันไปแล้ว เรามาดูกันครับว่า บาคาร่า เขามีอัตราต่อรองอย่างไร แทงอะไร จ่ายแค่ไหน ไปดูกัน
- เมื่อทายว่าฝั่งผู้เล่นชนะ
- หากฝั่งผู้เล่นชนะ จะได้รับกำไรกลับมา 1 เท่าของเงินเดิมพัน สมมติว่าแทง 100 จะได้ทุนคืน 100 กำไรอีก 100 รวมเป็น 200
- หากฝั่งผู้เล่นแพ้ เสียเงินเดิมพันทั้งหมด
- หากผลออกมาเป็นเสมอ จะได้รับเงินเดิมพันคืนเต็มจำนวน
- เมื่อทายว่าฝั่งเจ้ามือชนะ
- หากฝั่งเจ้ามือชนะ จะได้รับกำไร 0.95 เท่าของเงินเดิมพัน สมมติว่าแทง 100 จะได้ทุนคืน 100 กำไรอีก 95 รวมเป็น 195 เนื่องจากจะมีการหักค่าคอมให้กับเจ้ามือ 5%
- หากฝั่งเจ้ามือแพ้ จะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด
- หากผลออกมาเป็นเสมอ จะได้รับเงินคืนทั้งหมด
- เมื่อทายว่าทั้งสองฝั่งจะเสมอกัน
- หากผลออกมาทั้งสองฝั่งมีแต้มเท่ากัน จะได้รับกำไร 8 เท่า สมมติว่าแทง 100 จะได้รับกำไร 800 บาท
- หากผลออกมาเป็นแพ้ชนะ จะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด
- เมื่อทายว่าจะออกไพ่คู่ จะเป็นการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งที่เดิมพันจะออกแต้มเดียวกัน (ไม่จำเป็นต้องมีหน้าไพ่เดียวกัน)
- หากไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งที่เดิมพันออกแต้มเดียวกัน จะได้รับกำไร 11 เท่า สมมติว่าแทง 100 จะได้รับกำไร 1,100
- หากไม่ออกไพ่คู่ จะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด
จากอัตราจ่ายดังกล่าวเราจะเห็นว่าบางตัวมันให้กำไรสูงชนิดที่ว่าอดใจวางเดิมพันกันแทบไม่ไหว แต่เดี๋ยวก่อนครับ เรามาดูค่า House Edge หรืออัตราการได้เปรียบของคาสิโนกันก่อนว่าแต่ละช่องเดิมพันทาง คาสิโนออนไลน์ จะได้เปรียบเรามากน้อยแค่ไหน ทำไมบางตัวถึงจ่ายสูง ขณะที่บางตัวจ่ายต่ำ
- เมื่อเดิมพันฝั่งผู้เล่น คาสิโนจะได้เปรียบ 1.2351%
- เมื่อเดิมพันฝั่งเจ้ามือ คาสิโนจะได้เปรียบ 0579%
- เมื่อเดิมพันว่าเสมอ คาสิโนจะได้เปรียบ 14.3596%
- เมื่เดิมพันว่าออกไพ่คู่ คาสิโนจะได้เปรียบ 10.3614%
มาถึงตรงนี้พอจะเห็นอะไรกันบ้างแล้วยังครับ ใช่ครับเมื่อเรามองย้อนกลับไปที่อัตราจ่ายจะเห็นได้ว่ามันสัมพันธ์กับค่า House Edge คือยิ่งเขาจ่ายให้เราเยอะ ก็หมายความว่าเขามั่นใจว่าโอกาสที่มันจะออกมีน้อยมาก ขณะที่อันไหนที่เขาได้เปรียบน้อย ก็จะจ่ายให้น้อยตามไปด้วย แต่ไม่ว่าจะได้เปรียบมากหรือน้อยสุดท้ายคาสิโนก็ได้เปรียบเราอยู่ดี ดังนั้นการจะวางเดิมพัน บาคาร่าออนไลน์ ทั้งทีก็ควรจะเลือกที่เรามีโอกาสชนะหรือที่คาสิโนจะได้เปรียบเราน้อยที่สุดจะดีกว่าครับ