พื้นฐานวิธีเล่นแบล็คแจ็ค ที่มือใหม่ไม่ควรพลาด
พื้นฐานวิธีเล่นแบล็คแจ็ค ที่มือใหม่ไม่ควรพลาด ในบรรดาเกมไพ่ที่นิยมเล่นกันใน คาสิโนออนไลน์ ทั่วโลกนอกจาก บาคาร่า ผมว่าก็มี แบล็คแจ็ค นี่แหละครับที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ อาจด้วยวิธีการเล่นที่ต้องอาศัยชั้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากถึงขนาด โป๊กเกอร์ วันนี้ผมก็เลยนำข้อมูลดี ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานการเล่น แบล็คแจ็ค ที่ทุกคนต้องมีโดยเฉพาะมือใหม่ ว่าแต่มีอะไรกันบ้างไปดูกันเลยครับ
สำหรับขาไพ่แบล็คแจ็คโดยเฉพาะคุณที่เป็นมือใหม่ คุณอาจสนใจบทความนี้กับ 3 เรื่องต้องรู้ก่อนเล่นไพ่แบล็คแจ็ค
ศัพท์พื้นฐานที่ต้องจำ
ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นกันที่ศัพท์ในการเล่น แบล็คแจ็ค ก่อนเลยครับ จะได้รู้ว่าเวลาเขาพูดหมายถึงอะไร แล้วมันจะเกิดขึ้นตอนไหน
- Blackjack ใช้สำหรับเรียกไพ่ 2 ใบแรกที่สามารถรวมกันแล้วได้ 21 แต้มทันที
- Hit คือการเรียกไพ่เพิ่มเพื่อให้มีแต้มใกล้ 21 แต้มมากที่สุด ซึ่งสามารถเรียกได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- Stand คือการไม่เรียกไพ่เพิ่ม บางที่อาจเรียก Stay, Stick, Stand pat ซึ่งมันก็มีความหมายอย่างเดียวกันครับ
- Double Down อันนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตอนที่ได้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น ซึ่งผู้เล่นจะสามารถวางเดิมพันได้เป็น 2 เท่า โดยสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้แค่ใบเดียว ยกตัวอย่างเช่น
สมมติว่าไพ่ 2 ใบแรกของเรารวมกันได้ 11 แต้ม เราจะสามารถวางเดิมพันได้เป็นสองเท่าด้วยการวางเดิมพันทับเส้นกรอบสี่เหลี่ยม และหลังจากนี้จะสามารถจั่วเพิ่มได้อีกแค่ใบเดียว ซึ่งเราจะต้องได้ 10 แต้มเท่านั้นเพื่อที่จะรวมไพ่ 3 ใบให้ได้ 21 แต้ม
- Split จะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงไพ่ 2 ใบแรกเช่นเดียวกับ Double Down ต่างกันตรงที่ 2 ใบนี้จะต้องเป็นไพ่คู่ (หน้าเดียวกันทั้งสองใบ) โดยเจ้ามือจะถามเราว่าต้องการแบ่งไพ่ (Split) หรือไม่ หากเราโอเคก็สามารถแยกไพ่ ก็จะทำการแยกไพ่คู่ออกมาเป็น 2 ชุด และสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ตามปกติ ซึ่งไพ่ทั้งสองชุดสามารถใช้เดิมพันกับเจ้ามือได้ทั้งสองชุด
- Surrender หากผู้เล่นคิดว่าไปต่อไม่ไหวก็สามารถขอยอมแพ้ได้ในช่วงไพ่ 2 ใบแรก ซึ่งจะได้รับเงินเดิมพันกลับคืนมาเพียงแค่ครึ่งเดียว
- Insurance เป็นการทำประกันเงินเดิมพัน ซึ่งจะต้องทำในช่วงไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น และไพ่ใบแรกของเจ้ามือจะต้องเป็นไพ่ A หากผู้เล่นจะทำการ Insurance ก็จะต้องจ่ายเงินอีกครึ่งหนึ่งของเดิมพันเพื่อเป็นเงินประกัน เนื่องจากว่าการที่เจ้ามือมีไพ่ A โอกาสที่เราจะชนะเจ้ามือได้นั้นมีน้อยมาก ซึ่งผลของการทำ Insurance จะมีดังนี้
- หากเจ้ามือได้ แบล็คแจ็ค หรือชนะ ผู้เล่นจะได้เงินประกันคืนพร้อมกับเงินเดิมพัน
- หากเจ้ามือแพ้ ผู้เล่นจะต้องเสียเงินประกันให้กับเจ้ามือ
การนับแต้มไพ่ แบล็คแจ็ค
ในการเล่น แบล็คแจ็ค จะมีวิธีการนับแต้มไพ่ดังนี้
- ไพ่หน้าตัวเลข 2 – 10 ทุกดอกจะมีแต้มตามหมายเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่สามฝรั่ง J, Q, K ทุกดอกจะมีแต้มอยู่ 10 แต้ม
- ไพ่ A ทุกดอก จะสามารถมีค่าเป็น 1 แต้มหรือ 11 แต้มก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะอยู่กับไพ่กลุ่มไหน เช่น หากอยู่กับไพ่สามฝรั่ง J, Q, K ไพ่ A ก็จะมีค่าเป็น 11 แต้ม แต่ถ้าอยู่ในกลุ่มไพ่ตัวเลขก็จะทำให้ไพ่ A มีค่าเป็น 1 แต้ม
กติกาและการแจกไพ่
สำหรับ แบล็คแจ็ค การแจกไพ่จะถูกแยกออกจากวิธีการเล่น ซึ่งขั้นตอนการแจกไพ่จะมีกติกาดังนี้
- เจ้ามือแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน คนละ 1 ใบ โดยเจ้ามือจะได้รับไพ่เป็นคนสุดท้าย แล้วค่อยเริ่มต้นแจกไพ่ใบที่ 2 โดยไพ่ทั้งสองใบที่ได้รับจะถูกคว่ำหน้าเอาไว้เสมอ
- ผู้เล่นสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ไม่จำกัดโดยเวียนกันเรียกเช่นเดียวกับการแจกไพ่ แต่การเรียกไพ่จะมีเงื่อนไขอยู่ว่าไพ่ 2 ใบแรกจะต้องรวมกันแล้วไม่ถึง 21 แต้ม และหลังเรียกไพ่หากรวมแต้มแล้วเกิน 21 แต้มก็จะถือว่าแพ้ทันทีเช่นกัน
- เจ้ามือจะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำ หากผู้เล่นได้น้อยกว่า 17 แต้มถือว่าแพ้เจ้ามือ แต่ถ้าเจ้ามือเปิดไพ่มาแล้วไม่ได้ 21 แต้ม ก็จะยังเล่นกันต่อไปไม่ถือว่าจบเกม
- หากแต้มระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือเสมอกัน ผู้เล่นสามารถรับเงินเดิมพันกลับไปได้
พื้นฐานวิธีเล่น แบล็คแจ็ค
อันที่จริงการเล่น แบล็คแจ็ค ตาม คาสิโนออนไลน์ ต่าง ๆ จะมีวิธีการเล่นอยู่มากมายหลายรูปแบบ แม้ว่าจะดูต่างกันแต่ก็มีพื้นฐานการเล่นเหมือน ๆ กันดังนี้ครับ
- เจ้ามือแจกไพ่ให้ผู้เล่นคนละ 1 ใบ โดยคว่ำหน้าไพ่ไว้ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง
- เจ้ามือเริ่มแจกไพ่ใบที่สองให้กับผู้เล่นทุกคนโดยคว่ำหน้าไว้ แล้วค่อยแจกให้ตัวเอง ซึ่งหนึ่งในสองใบของเจ้ามือจะต้องหงายหน้าไพ่ไว้
- ผู้เล่นทุกคนรวมแต้มไพ่ในมือ หากยังไม่พอใจกับแต้มที่ได้สามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ตามต้องการ เพื่อให้แต้มรวมที่ได้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด
- เจ้ามือจะเริ่มเปิดไพ่ใบแรกของตัวเองออกมาให้ผู้เล่นคนอื่นได้เห็น ส่วนอีกใบจะถูกคว่ำไว้รอจนกว่าผู้เล่นคนอื่นจะเรียกไพ่ครบ หรือเลิกเรียกไพ่
- หลังจากที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนเรียกไพ่เพิ่มแล้ว เจ้ามือจะทำการเปิดไพ่ และจั่วเพิ่ม โดยมีเงื่อนไขคือต้องเรียกไปเรื่อย ๆ จนกว่าแต้มจะเท่ากับ 17 ขึ้นไปถึงจะสามารถหยุดจั่วได้ เท่ากับว่าแต้มต่ำสุดของเจ้ามือคือ 17 แต้มนั่นเอง
- ผู้เล่นทำการวัดไพ่กับเจ้ามือ หากผู้เล่นมีแต้มรวมของไพ่ต่ำกว่า 17 ถือว่าแพ้เจ้ามือ หากมีแต้มมากกว่าเจ้ามือถือว่าชนะ
เทคนิคการเล่น แบล็คแจ็ค
ในการเล่น แบล็คแจ็ค ไม่ว่าจะเป็นในบ่อนหรือใน คาสิโนออนไลน์ ก็สามารถนำเทคนิคหรือ สูตรแบล็คแจ็ค ตัวนี้ไปใช้ได้ครับ คือในช่วงจั่วไพ่เราเป้าหมายแรกคือเพื่อให้ได้แต้มรวมใกล้เคียงกับ 21 แต้ม และต้องไม่น้อยกว่า 17 แต้ม เพราะแต้มขั้นต่ำของเจ้ามือที่จะใช้วัดกับเราคือ 17 แต้มขึ้นไป เนื่องจากเจ้ามือจะหยุดจั่วได้ก็ต่อเมื่อแต้มในมือมี 17 แต้มขึ้นไปแล้วเท่านั้น แต่ในการเรียกไพ่เพิ่มเราก็มีข้อที่จะต้องระวังอีกอย่างก็คือ พยายามอย่าให้แต้มไพ่เรามากกว่า 21 แต้ม เพราะมันจะทำให้เราแพ้ทันทีครับ
ทีนี้มันก็จะกดดันอยู่หน่อย ๆ เพราะในความไม่อั้นของการเรียกไพ่มันมีกับดักอยู่ ดังนั้นเราอาจจะเลือกที่จะหยุดจั่วทั้งที่แต้มน้อยกว่า 17 แต้มก็ได้ เพราะเราสามารถหยุดจั่วได้ทุกเมื่อ จากนั้นก็ไปลุ้นให้เจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มจนแต้มเกิน 21 แต้มก็พอ เพราะแค่นั้นก็สามารถทำให้เจ้ามือแพ้เราได้เช่นกันครับ